คนที่มีศีลมาก ทําบุญกับพระทุศีลก็ยังมีอานิสงส์มาก แก่ผู้ทําหรือคะ
ถูกต้องแล้ว ทางพระพุทธศาสนาต้องการให้บุคคลพัฒนาตนให้เป็นคนดี
ให้มีบุญขึ้นในตนเอง มากกว่าหวังบุญจากผู้อื่น ท่านจึงกล่าวไว้เช่นนั้น
คนส่วนมากมุ่งทําบุญกับผู้มีศีล ซึ่งก็ดีในส่วนหนึ่ง
แต่ถ้าไม่ทําตนให้เป็นคนมีศีลมีธรรม ยังเป็นคนไม่ดีอยู่ ก็จะได้ประโยชน์น้อย
ถ้าจัดตามลําดับชั้น ทานเป็นเบื้องต้น ศีล, สมถะและวิปัสสนาสูงขึ้นไปโดยลําดับ
ศีลสูงกว่าทานอยู่แล้ว ผู้ทําตนให้เป็นคนมีศีลธรรม
แม้จะให้ทานในผู้ทุศีลก็มีผลมาก
ถ้าให้ทานในผู้มีศีลจะมีผลมากขึ้นไปอีก
ท่านกล่าวว่าทานของผู้มีศีลย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก
แนวคิดอันนี้ได้มากลายเป็นประเพณีวัฒนธรรมไทย
ที่ให้เจ้าภาพผู้ทําบุญให้ทาน รับศีลเสียก่อนแล้วจึงถวายทาน
ในอรรถกถาแห่งพระไตรปิฎก (อรรถกถา ทักขิณาวิภังคสูตร)
ท่านได้ยกตัวอย่างประกอบเรื่องนี้ไว้ว่า จีวรที่พระสารีบุตรถวายแก่พระพุทธเจ้า
กับจีวรที่พระพุทธเจ้าถวายแก่พระสารีบุตร
อย่างไหนมีผลมีอานิสงส์มากกว่า?
ท่านตอบว่า ที่พระพุทธเจ้าถวายแก่พระสารีบุตรมีผลมากกว่า
เพราะพระพุทธเจ้าทรงมีคุณธรรมเหนือกว่าพระสารีบุตร
แต่ถ้าจะทําบุญอุทิศให้ผู้ตาย ท่านว่าให้ทําในผู้มีศีล
เล่าไว้ใน อรรถกถาแห่งทักขิณาวิภังคสูตรว่า
บุคคลผู้หนึ่งทําบุญอุทิศให้ผู้ตาย
แต่ทําในภิกษุผู้ทุศีล ๒ ครั้ง อมนุษย์คือ ผู้ตายได้ร้องขึ้นว่า
ภิกษุผู้ทุศีลแย่งสมบัติเขา ผู้ทําบุญได้ทราบแล้ว
ในครั้งที่ ๓ ได้ทําบุญในภิกษุผู้มีศีล อมนุษย์
ได้รับแล้วร้องบอกให้ทราบว่าเขาได้รับบุญที่อุทิศให้แล้ว
ผู้ตอบ อาจารย์ วศิน อินทสระ
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2008-09-13